ตามสถิติแล้วช่วงต้นปีเป็นช่วงที่คนหางานใหม่เยอะที่สุด และเนื่องจาก resume เป็นเสมือนประตูด่านแรกในการได้งานใหม่
ในวันนี้ marketing everyday จะมาสอน 5 เทคนิคการเขียน resume ให้ได้งานกันครับ
1. ใช้ font ที่อ่านง่าย (เริ่มจากง่ายๆก่อน)
- อย่าพยายามใช้ฟ้อนต์ที่เว่อวังอลังการมากเกินไปจนทำให้ resume ของคุณอ่านยาก
- ระลึกเอาไว้เสมอว่าวันๆนึง HR บริษัทต้องอ่าน resume ของผู้สมัครหลายพันคน
- หาก resume ของคุณอ่านยากเกินไป HR คงไม่อยากอ่านและข้ามไปเลย
2. Customization
- หลายคนมักจะใช้ resume อันเดียวหว่านยื่นไปหลายๆบริษัท
- แต่ resume ที่ดีควรผ่านการ customise หรือปรับแต่งโดยเฉพาะเพื่อให้เข้ากับงานที่คุณกำลังสมัคร
วิธีปรับ resume ให้เข้ากับงานที่คุณกำลังจะสมัคร
- อ่าน job description หรือ required skills ที่งานนั้นๆต้องการ
- พยายามนึกเชื่อมโยงเข้ากับประสบการณ์ของเรา ว่าเราเคยทำอะไรที่แสดงออกถึง skills นั้นๆบ้าง
- เอาประสบการณ์นั้นๆมาเขียนเป็น resume
- ห้ามโกหก!!!
***บางทีมันอาจจะดูเหนื่อยที่จะต้องมานั่งทำ resume 1 แบบต่อ 1 บริษัท แต่ถ้าลองคิดถึงเงินเดือนที่คุณมีโอกาสได้ที่บริษัทใหม่แล้ว รับรองว่าคุ้มค่ากับเวลาแน่นอน
3. อย่าบรรยาย Job Description
- มีคนจำนวนมากมายที่เขียนเพียงชื่อตำแหน่งกับ job description
- สิ่งนี้อาจจะไม่ได้ช่วยให้คุณได้งานเพราะไม่ได้สร้างความโดดเด่นให้กับคุณ
- พยายามเขียนว่า "เราสร้าง Value อะไรให้กับบริษัท/ลูกค้าของเรา"
- ใช้หลักการเขียนแบบ PAR***
***การเขียนแบบ PAR คืออะไร?
P = Problem: ปัญหาหรือโจทย์ที่เราต้องเจอระหว่างการทำงาน
A = Action: สิ่งที่เราทำเพื่อแก้ปัญหา
R = Result: ผลลัพธ์ที่ได้
- ยกตัวอย่างเช่น "ทำหน้าที่หา supplier ใหม่ๆให้กับบริษัทเพื่อช่วยบริษัทลดต้นทุน โดยยังคงความสามารถในการผลิตที่ดี ส่งผลให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น 27%"
- ในกรณีนี้อาจมีแค่ Action กับ Result แต่ก็ดีกว่าเขียนแค่ job description ว่า "ทำหน้าที่หา supplier ใหม่ๆให้กับบริษัท" แน่ๆ
4. เลือกจุดที่จะเขียน
- ใน resume เราไม่จำเป็นต้องเขียนทุกสิ่งทุกอย่างลงไป
- เช่น ทำงานที่บริษัทนึงไปได้แค่ 3 สัปดาห์แล้วลาออก ไม่ต้องเขียนก็ได้ (ไม่เขียนดีกว่าเขียน)
- เลือกเขียนสิ่งที่ทำให้เราดูโดดเด่น เช่น ในการทำงานที่บริษัทเก่า เราอาจจะทำผลงานได้ไม่ดีมากนัก แต่มีโปรเจ็คนึง ที่เราทำออกมาได้ดีมาก ก็เขียนแค่โปรเจ็คนั้นลงไป
5. Quantifiable
- พยายามแปลงผลลัพธ์อะไรก็ตามที่เราทำสำเร็จให้เป็นตัวเลข (ถ้าทำได้)
- ยกตัวอย่างเช่น "ส่งผลให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น 27%" ฟังดูดีกว่า "ส่งผลให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น" เฉยๆ
- ถ้าไม่มีข้อมูลให้พยายามเก็บข้อมูล หรือประมาณเอา (แต่ต้องประมาณแบบมีหลักการ วิธีการคำนวณที่สมเหตุสมผล ไม่งั้นจะกลายเป็นมโน)
- หากต้องประมาณการณ์ ให้ใช้เลขที่ไม่กลม จะดูน่าเชื่อถือกว่าเลขกลมๆ เช่น "27%" ดูน่าเชื่อถือกว่า "30%"
เพียงทำตามเทคนิคง่ายๆ 5 ข้อนี้ รับรองว่าโอกาสได้งานเพิ่มสูงขึ้นเยอะแน่นอน
Written by: Tanan Udomcharn
コメント